Customer Reviews

หัวขโมยแห่งบารามอส กับ มงกุฏแห่งใจ เล่ม 01
4
วรรณกรรมเยาวชนที่ไม่คล้ายวรรณกรรมเยาชนเท่าไหร่
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

หัวขโมยแห่งบารามอสเป็นวรรณกรรมเยาวชนของไทยที่ดังมากเรื่องหนึ่ง มีตัวเอกคือนายเฟริน(ที่ตอนหลังกลายเป็นเจ้าหญิงเฟลิโอน่า) หัวขโมยจอมกะล่อนที่ถูกพ่อบังคับให้เข้าไปเรียนยังโรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กเพื่อไปขโมยตัวเจ้าชาย(ขโมยสำเร็จด้วยนะ ได้เจ้าชายหน้านิ่งมาตั้งคนหนึ่งแน่ะ) การผจญภัยที่เต็มไปด้วยความฮาจึงได้บังเกิดขึ้น จุดเด่นของหัวขโมยแห่งบารอมอสคือความสนุกปนฮาค่ะ ตัวเอกเนี่ยกะล่อนมาก เป็นคนคิดบวกด้วย บางเรื่องก็ใสซื่อเอามากๆทำให้หน้าแตกเป็นประจำแต่พอถึงเวลาจวนตัวก็มักจะโชว์ฝีมือเทพอยู่บ่อยๆ(แต่ความเทพเอาแน่เอานอนไม่ได้) แก๊งค์เพื่อนซี้แต่ละคนก็มีส่วนทำให้เรื่องวุ่นวายไปมากกว่าเดิมทั้งเจ้าชายคาโลหน้านิ่งผู้ชอบเก๊กเหมือนคนอายุห้าสิบแต่มักจะหลุดนิสัยเด็กๆออกมาบ่อยๆ(ยิ่งอยู่กับเฟรินยิ่งหลุดไม่เหลือชิ้นดี) คิล นักฆาหนุ่มน้อยที่จะว่าฉลาดก็ได้จะว่าซื่อบื้อก็ได้ พอสามคนนี้มาอยู่รวมกันเรื่องราวมันเลยวายป่วงมาก อีกจุดหนึ่งที่เราคิดว่าหานิยายเรื่องอื่นมาเทียบยากคือเนื้อหาของหัวขโมยแห่งบารามอสมีความเป็นผู้ใหญ่และเด็กผสมกันค่ะ การเล่าเรื่องดูสนุกสนานเหมือนเด็กขี้เล่นแต่เนื้อหาสาระเหมือนกับผู้ใหญ่ และเรื่องนี้ไม่มีตัวร้ายไม่มีคนดีนะคะ ตัวละครในเรื่องอยู่คาบเส้นระหว่างสองฝั่ง โลกของพระราชาคือโลกของผลประโยชน์ ไม่มีฝั่งดีฝั่งเลวมีแค่ใครอยู่ฝั่งไหนกับใครก็แค่นั้น ไปๆมาๆเราว่าฝั่งปีศาจดูจะเป็นคนดีมากกว่าฝั่งมนุษย์อีก สำหรับคนที่ไม่เคยอ่าน ถ้าคุณชอบนิยายแฟนตาซีฮาๆแต่เนื้อหาไม่เบา มีความสนุกและมีสาระแฝง มีรักกุ๊กกิ๊กบ้าง มีดราม่าหน่อยๆ เราแนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ
อาร์ทิมิส ฟาวล์
5
อัจฉริยะนามอาร์ทิมิส ฟาวล์ผู้ต้องการกอบกู้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลด้วยแผนการสะท้านโลก
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

อาร์ธิมิส ฟาวล์ เป็นวรรณกรรมเยาชนที่ดังมากสมัยเราเรียนชั้นมัธยม(ดักแก่กันเลยทีเดียว) เรื่องนี้เนี่ยเป็นเรื่องของหนุ่มน้อยสุดอัจฉริยะอาร์ธิมิส ฟาวล์ที่พ่อหายสาบสูญที่ขั้วโลก แม่ล้มป่วยมีอาการทางจิต เขาเลยคิดจะกอบกู้ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลกลับมาด้วยการลักพาตัวแฟรี่เพื่อแลกกับค่าไถ่ทองคำ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเคยคลั่งมาก ชอบมากกว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์อีก จุดที่เรามากที่สุดคืออาร์ทิมิสฉลาดมากอ่ะคุณ เราชอบพระเอกประเภทเก่ง ยิ่งพวกฉลาดมากนี่ยิ่งชอบเข้าไปอีก จุดเด่นของเรื่องนี้คือการเล่าเรื่องที่กระชับฉับไว พล็อตไม่ได้สลับซับซ้อนแต่ว่าการดำเนินเรื่องที่ค่อยๆเผยทีละปมนั้นจะทำให้คนอ่านรู้สึกตื่นเต้นมาก อีกเรื่องที่เราชอบเกี่ยวกับซีรีย์นี้มากคืออาร์ธิมิสมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด(เทียบเรื่องแรกกับเล่มท้ายๆ) เล่มแรกนั้นอาร์ธิมิสเป็นประเภทฉลาดแบบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก ไม่สนใจวิธีการ ไม่สนใจคนอื่น สนใจแค่ผลประโยชน์ (จริงๆครอบครัวก็แทบไม่สนใจด้วยซ้ำ) แต่ในเล่มหลังๆหลังจากที่เขาต้องไปผจญภัยกับผู้กองฮอลลี่แฟรี่สาวสวยบ่อยๆจิตใจของเขาก็ดีขึ้นมาก จากที่มองหาแต่ผลประโยชน์ก็เรียนรู้ที่จะช่วยคนอื่น (จากโจรลักพาตัวแฟรี่มาเป็นผู้กล้าปกป้องโลกได้ไงก็ไม่รู้) เรื่องนี้เหมาะกับใคร? อาร์ทิมิส ฟาวล์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบวรรณกรรมเยาวชนแต่เบื่อเรื่องที่ออกแนวเวทมนต์จ๋า ชอบตัวเอกที่ฉลาด(มาก)ไม่ใช่คนดีอะไรมาก ชอบสไตล์การเขียนแบบแอคชั่น อ่านแล้วมันส์ ถ้าคุณชอบแนวนี้เปิดอ่านเลยค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง
The Draker's Story เล่ม 01 ตอนพระราชวังแห่งอำนาจ
4
นิทาน ตำนาน มังกร และหญิงสาวแห่งโชคชะตา
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เดรกเกอร์ สตอรี่(The Draker’s Story) เป็นผลงานเดียวกับนักเขียนเรื่องเซวีน่า มหานครแห่งมนตรา เดรกเกอร์ สตอรี่เป็นเรื่องของแอมเบอร์รี่ แคลร์เด็กสาวธรรมดาก็ได้รับจดหมายสีทองรับเชิญให้ไปเรียนยัง เดอลาเรีย โรงเรียนกุลสตรีสตรีอันดับหนึ่งของลาโคน่า ชะตาชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนไปซ้ำสองเมื่อเธอพบกับไข่มังกร สิ่งมีชีวิตที่มีเพียงตำนานเท่านั้น และนับจากนั้นการผจญภัยของเธอและมังกรน้อยทินเซลก็เริ่มต้นขึ้น สิ่งที่ยากที่สุดของนักเขียนอาจจะเป็นการก้าวออกจากกรอบเดิมที่ตัวเองเคยวาดเอาไว้ ถ้าเราจำไม่ผิดเดรกเกอร์ สตอรี่เป็นผลงานลำดับถัดมาจากเซวีน่า(หรือคาเลนดาร์คาสเทลมาก่อน ไม่มั่นใจ)ซึ่งพี่กัลฐิดา(คนแต่ง)ยังไม่สามารถก้าวพ้นจากกรอบที่ตัวเองวางเอาไว้ได้ คือเรื่องนี้เนี่ยแม้ว่าฉากจะเปลี่ยนเป็นโลกธรรมดา รูปแบบเวทมนต์และพลังเปลี่ยนไปแต่รูปแบบของตัวละครยังคงเดิม คือนางเอกมีชาติกำเนิดที่ดีมากมีความสามารถอันน่าตื่นตะลึงแต่เพราะสาเหตุในอดีตเลยต้องตกระกำลำบากแล้วจึงคืนที่เดิมในตอนหลัง ส่วนพระเอกเนี่ยถึงพื้นเพครอบครอบจะแตกต่างจากพระเอกเซวีน่าแต่นิสัยการวางตัวเราคิดว่ายังเป็นแนวเดิมอยู่ คืออ่านแล้วมันยังรู้สึกได้ถึงตัวละครแบบเซวีน่าอยู่เลย แต่ถ้าถามว่าสนุกไหม ตอบได้เลยว่าสนุก เราว่าสนุกรองมาจากเซวีน่าเลยแหละ เรื่องการบรรยาย พล็อต การเก็บตกรายละเอียดคงไม่พูดถึงเพราะนักเขียนทำได้ดีอยู่แล้ว โดยส่วนตัวนอกจากความสนุกแล้วเราอยากเห็นพัฒนาการใหม่ๆของนักเขียนด้วย(ซึ่งลินคอร์นและลอสต์ก้าวข้ามไปได้เรียบร้อยแล้ว) สรุปว่าสนุกค่ะถ้าใครชอบแนวเซวีน่าก็อ่านเลยค่ะรับรองว่าไม่ผิดหวัง
เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา เล่ม 01 ภาค การกลับมาของบุคคลแห่งชะตากรรม
4
ปฐมบทของนวนิยายชื่อดังเซวีน่า มหานครแห่งมนตรา
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เซวีน่า มหานครแห่งมนตราเป็นนิยายดังที่เริ่มต้นมาจากนิยายออนไลน์ในเว็บ Dek-d.com และเมื่อปีก่อนก็ครบรอบ 10 ปีเซวีน่าพอดี เราเนี่ยทันตั้งแต่ตอนพี่พี่กัลฐิดา(คนแต่ง)เขียนลงเว็บตั้งแต่ตอนแรกและอ่านจนกระทั่งถึงตอนสุดท้ายรวมไปถึงภาคพิเศษ(จริงๆก็อ่านเกือบทุกเรื่องที่พี่เค้าแต่งแหละ) เรียกได้ว่าอยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปีเลย เซวีน่าเป็นเรื่องของเฟมีลเด็กสาวธรรมดาที่ต้องอดมื้อกินมื้อเพื่อเอาเงินมาจ่ายภาษีคฤหาสถ์หลังใหญ่ก่อนที่จะหลุดข้ามมิติไปยังโลกเซวีน่าและได้รู้ความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิดของตัวเอง จุดเด่นของพี่กัลฐิดาเลยก็คงจะเป็นการผสมนิยายแนวแฟนตาซีเข้ากับนิยายรักได้ออกมาเป็นรสชาติกำลังพอดี อย่างนิยายรักที่มีแฟนตาซีมักจะแน่นเรื่องความรักความสัมพันธ์ของตัวละคร นิยายแฟนตาซีก็มักจะสนใจฉากหรือเหตุการณ์มากกว่าความสัมพันธ์ตัวละครแต่พี่กัลฐิดาเนี่ยเค้าผสมได้ออกมาพอดีซึ่งมันตอบโจทย์คนอ่านได้ลงตัวเป๊ะ สำนวนการเขียนอ่านง่าย ไม่งง ไม่สับสน ถึงชื่อบางชื่อจะจำยากแต่คำอธิบายละเอียดมากคือไม่เหมือนบางเรื่องที่มาถึงก็พูดขึ้นมาดื้อๆไม่ได้สนใจคนอ่านเลยว่าจะรู้หรือไม่รู้ จุดที่เราชอบก็คือความละเอียดรอบคอบในการเขียนรายละเอียดของคนแต่งนี่ล่ะค่ะ นิยายเรื่องนี้เหมาะกับใคร? เหมาะกับคนที่ชอบอ่านนิยายหนาๆแนวแฟนตาซีแบบที่โลกในนิยายละเอียดมากๆ ความสัมพันธ์ตัวละครซับซ้อน มีฉากรักเยอะแต่ไม่เลี่ยน และยาวจุใจ นิยายเรื่องนี้ไม่เน้นการต่อสู้และไม่ใช่นิยายที่ดำเนินเรื่องแบบกระชับฉับไว ใครที่ชอบอ่านแนวหลังข้ามไปได้เลยค่ะ
Lincorn Diary ลินคอร์น ไดอะรี เล่ม 02 ภาคพิเศษของ เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา
4
บทสรุปของลินคอร์นไดอารี่ side story ของนิยายยอดนิยมเซวีน่า มหานครแห่งมนตรา
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ในลินคอร์น ไดอารี่เล่มหนึ่งเราได้เกริ่นนำไปแล้วถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ในเล่มจบของนิยายเล่มนี้เราจะมารีวิวด้านเนื้อหากันบ้าง นอกจากเรื่องตัวละครที่ฉีกแนวไปจากเดิมแล้วสิ่งที่แตกต่างจากเซวีน่าอย่างเห็นได้ชัดก็คือสำนวนการเขียนและการบรรยาย ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าพี่กัลฐิดาเป็นคนบรรยายละเอียดเซวีน่าจึงหมดพื้นที่ไปจำนวนมากกับการบรรยาย (ซึ่งนี่ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของนิยายส่วนมากของสำนักพิมพ์สถาพรทำให้นิยายค่ายนี้หนาแบบสามารถใช้หนุนแทนหมอนได้แทบทุกเรื่อง) แต่ในลินคอร์น ไดอารี่การบรรยายกระชับมากขึ้นและมีการใช้การตัดฉากแทนการบรรยายเชื่อมไปอีกจุดมากขึ้นรวมไปถึงการดำเนินเรื่องที่ไวและกระชับขึ้น ยกตัวอย่างในเซวีน่าการฝึกของเฟมีลมีการบรรยายอย่างละเอียดว่าเริ่มที่ไหนทำยังไง แต่การฝึกของลิล่าเล่าข้ามไปเลย ซึ่งเราก็ว่าดีนะเพราะเราไม่จำเป็นต้องบรรยายทุกเหตุการร์อย่างละเอียด เหตุการณ์ไหนย่อได้ก็ควรย่อ เหตุการณ์ไหนไม่สำคัญแค่บอกว่าได้ทำแล้วก็พอ แต่เพราะการบรรยายแบบกระชับมากขึ้นนี่เองทำให้เรารู้สึกว่าแต่ละตอนมันช่างสั้นมากๆ มันไม่ยาวจุใจเหมือนนิยายเรื่องอื่นๆ สำหรับคนที่อ่านรวมเล่มคงไม่เห็นความแตกต่างแต่เราที่ตามอ่านในเด็กดีทุกอาทิตย์สังเกตเห็นจุดนี้ได้อย่างชัดเจน อีกจุดหนึ่งที่ดีแต่เราไม่ชอบก็คือเพราะนิยายของพี่กัลฐิดาจะปล่อยทางเน็ตก่อน ตอนจบในหนึ่งบทจึงมักจะทิ้งท้ายด้วยปริศนา ซึ่งมันดีนะเพราะมันทำให้คนอยากรู้และติดตามต่อแต่สำหรับคนอ่านมันทรมานเพราะอยากรู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง สรุปเลยแล้วกัน นิยายเรื่องนี้สนุกค่ะ คนที่เคยอ่านเซวีน่าน่าจะชอบนะ ส่วนคนที่ไม่เคยอ่านก็สามารถอ่านสนุกได้ค่ะเพราะมันได้ได้เชื่อมกันอะไรขนาดนั้น อ่านสนุกได้โดยไม่ต้องไปตามหาเนื้อเรื่องหลักแต่ถ้าอ่านจะได้อรรถรสที่ดีขึ้นค่ะ
Lincorn Diary ลินคอร์น ไดอะรี เล่ม 01 ภาคพิเศษของ เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา
4
Side story ของเซวีน่าที่ก้าวข้ามเซวีน่าได้สำเร็จ
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ลินคอร์น ไดอารี่ เป็นนิยายที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อฉลองครบรอบสิบปีนิยายเรื่อง เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา โดยตัวละครในเรื่องจะเป็นรุ่นลูกพวกพระเอกนางเอกของเรื่องเซวีน่าค่ะ ชื่อลินคอร์นเนี่ยเป็นชื่อลูกชายของเฟมีลนางเอกเรื่องเซวีน่า (ก็คงจะเดาได้แล้วใช่ไหมว่าเรื่องนี้ใครเป็นพระเอก) แต่ตัวดำเนินเรื่องจริงๆกลับเป็นสาวน้อยขี้อายใส่แว่น ลิล่า ซีซานีน เดี๋ยวๆไหนบอกลินคอร์นไดอารี่แล้วไงคนเล่าเรื่องชื่อลิล่าไปได้ เราก็จะบอกว่ามันมีสาเหตุค่ะ (สาเหตุเฉลยที่เล่มสอง) แต่นิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องยาวนะคะ น่าจะจัดเป็นไซด์สตอรี่ของเซวีน่าได้ความยาวสองเล่มหนาๆจบ เนื้อเรื่องเนี่ยก็จะเกี่ยวข้องกับชีวิตในโรงเรียนของเหล่าลูกๆของตัวละครในเรื่องเซวีน่า มีแกนนำฝ่ายชายคือเจ้าชายพเนจร ลินคอร์นนั่นเอง ส่วนฝ่ายหญิงมีลิล่าเป็นตัวหลักซึ่งชะตากรรมน้องช่างน่าสงสารเพราะเล่มหนึ่งถูกลินคอร์นแกล้งตลอด ให้เลี้ยงข้าวบ้าง บังคับบ้าง (เอาเถอะหนุ่มแกล้งเค้าบอกว่ารัก) เรื่องนี้เนี่ยถึงจะอยู่ในจักรวาลของเซวีน่าแต่เราถือว่าเป็นเรื่องที่พี่กัลฐิดาก้าวพ้นเซวีน่าแล้ว คือฉากเนี่ยคือเซวีน่าก็จริงแต่นิสัยตัวละคร การออกแบบคาแรคเตอร์ หลุดออกจากกรอบเดิมหมดเลย อย่างลินคอร์นนี่ก็โคตรจะกวนประสาท ลิล่าไม่ใช่ผู้หญิงที่เด่นเหมือนเฟมีลหรือแอมมี่แถมยังขี้อายมากและไม่มีความมั่นใจในตัวเอง สรุปคือลินคอร์นไดอารี่คือไซด์สตอรี่ของเซวีน่าที่ก้าวพ้นเซวีน่าแล้ว ที่สำคัญคืออ่านสนุก(เรานี่ตามอ่านตั้งแต่ยังไม่เป็นเล่ม) ใครที่เป็นแฟนนิยายเซวีน่าไม่ควรพลาดเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่งค่ะ
The Legend of Sun Knight 1 (ฉบับการ์ตูน)
4
ตำนานเทพอัศวินในรูปแบบการ์ตูนภาพสวย
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

The legend of Sun Knight หรือตำนานเทพอัศวินเป็นนิยายที่ดังมากที่ไต้หวันรวมไปถึงที่ไทยด้วย เชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยเห็นและหลายๆคนน่าจะเคยอ่านเรื่องนี้ในฉบับนิยายมาแล้ว ตำนานเทพอัศวินเนี่ยเป็นเรื่องราวความวุ่นวายของเหล่าชายหนุ่มผู้นำหน้าที่เทพอัศวินแห่งลัทธิเทพเจ้าแห่งแสงสว่าง โดยมีคนเล่าเรื่องคือ เกรเซียส ครีอุส หรือเทพอัศวินครีอุสหัวหน้าของเหล่าเทพอัศวินที่เบื้องหน้าฉากเป็นหนุ่มหล่อใสกิ๊งไม่มีพิษไม่มีภัยทว่านิสัยจริงนั้นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ในเมื่อเป็นหัวหน้าก็ต้องคอยแก้ปัญหาให้เพื่อนร่วมงาน เพื่อนสนิท ยันปกป้องประเทศจากการรุกรานของลัทธิอื่น เรื่องความฮาจึงบังเกิดขึ้น จุดเด่นของเรื่องนี้เนี่ยคือเรื่องความฮาและเนื้อหาเบาสมอง มีดราม่าบ้างแต่ไม่หนักจนทำให้คนอ่านเครียด และสนุกคือ่านแล้ววางไม่ลง สิ่งหนึ่งที่เราชอบเกี่ยวกับวงการสิ่งพิมพ์ของไต้หวันคือเค้าให้การสนับสนุนดีกว่าบ้านเรา อย่างเรื่องนี้คลอดผลิตภัณฑ์ออกมาหลายอย่างเลยนะตั้งแต่มังงะยันมาร์คชีต และนักวาดภาพประกอบของไต้หวันก็งานดีมาก เราว่าตอนนี้เป็นรองแค่ญี่ปุ่นเอง เส้นเนียบ ไม่มีเผาหรือหลุด สิ่งที่เราชอบอีกอย่างคือเค้าออกแบบคาแรคเตอร์เก่งมาก พรอปเป็นเอกลักษณ์และเหมาะสมกับเรื่อง เนื้อเรื่องก็เหมือนเดิมแต่ที่เพิ่มมาคือภาพวาดสวยๆ สำหรับเราแล้วเราว่าความสนุกพอกันเลย เพราะฉะนั้นถ้าใครเป็นแฟนเรื่องนี้แล้วอยากอ่านก็หยิบเลย แต่อย่างเราเงี้ยเราเฉยๆนะอ่านก็ได้ไม่อ่านก็ได้ สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านจะลองแบบมังงะก่อนก็ได้ สนุกเหมือนกันค่ะ
Harry Potter เล่ม 04 แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี (ปกแข็ง)
4
เล่มสี่เป็นหนึ่งในเล่มที่เราชอบมากที่ชุดในซีรีย์นี้ค่ะ
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ผู้เสพความตายได้ปรากฏตัวขึ้นที่งานควิดดิชเวิร์ลคัพและในตอนที่ทุกคนกำลังชุลมุนกันอยู่นั้นใครบางคนได้ขโมยไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่ไปเสกสัญลักษณ์ของผู้เสพความตาย หรือว่านี่จะเป็นการกลับมาของโวลเดอร์มอล? เมื่อพวกเขากลับไปที่ฮอกวอร์ตก็ได้รับการแจ้งข่าวสำคัญว่าจะมีการประลองเวทไตรภาคีและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นชื่อของแฮร์รี่ถึงได้ไปโผล่เป็นหนึ่งในตัวแทนที่ต้องทำการแข่งขันนี่คือความบังเอิญหรือว่าเป็นแผนร้ายของใครบางคนกันแน่
เล่มสี่เป็นหนึ่งในเล่มที่เราชอบมากที่ชุดในซีรีย์นี้ค่ะ มีครบทุกอย่างเลยทั้งการต่อสู้ เรื่องลึกลับ การผจญภัย และมิตรภาพ อีกทั้งเราจะได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆในโลกของพ่อมดแม่มดอย่างงานควิสดิชเวิร์ลคัพที่เป็นงานใหญ่ที่ทุกคนตั้งตารอคอย งานประลองเวทไตรภาคีที่น่าตื่นเต้นและลุ้นระทึกทุกด่านเลย และในเล่มนี้แฮร์รี่ก็ยังถูกลากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องยุ่งยากโดยที่เขาไม่รู้ตัวเหมือนเดิมเลยค่ะ อยู่เฉยๆก็ได้เป็นตัวแทนซะงั้นทำเอาโดนชาวฮอกวอร์ต(ที่เข้าใจยาก)ประท้วงแถมยังทะเลาะกับรอนอีกด้วย อีกฉากที่เราชอบมากๆคืองานเลี้ยงเต้นรำที่เฮอร์ไมโอนี่โฉมใหม่ปรากฏตัวขึ้นไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีเราก็ชอบฉากนี้มากจริงๆ ในที่สุดโวลเดอร์มอลก็คืนชีพกลับมาอีกครั้ง ความน่ากลัวกำลังจะกลับเข้ามายังโลกของพ่อมดแม่มดแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าด้วยฝีมือของคนเพียงคนเดียวจะทำให้เรื่องวุ่นวายได้ถึงขนาดนี้ จริงๆในนิยายเรื่องนี้มีตัวอย่างของลูกที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูแบบผิดๆให้เห็นเยอะเลยค่ะ คงจะพูดได้ว่าตัวร้ายในเรื่องนี่เป็นผลิตจากการเลี้ยงดูแบบผิดๆของครอบครัวก็ว่าได้
Naga นัยน์ตามรณะ ต.ภาพยันต์ผนึกฯ(ภาคจบ)
5
โชกับโอตัดสินใจว่าจะจัดการกับปีศาจที่หมายหัวโคอิซึมิ
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โชกับโอตัดสินใจว่าจะจัดการกับปีศาจที่หมายหัวโคอิซึมิและยุติเรื่องทั้งหมดเสีย พวกเขาจึงเดินทางออกไปตามหาต้นตอของปัญหาที่สิงอยู่ใต้โรงเรียนให้สิ้นซากและพวกเขาต้องตกตะลึงเมื่อค้นพบว่าใต้โรงเรียนมัธยมปลายชิเอนมีสิ่งก่อสร้างที่ถูกสร้างในรูปแบบของเงาสะท้อนกลับหัวกลับหาง โชพบว่าพวกเขาเข้ามาในช่วงเวลาเหมาะเจาะคือเวลาที่จะให้กำเนิดเทพนั่นเอง หากเทพและมารกำเนิดขึ้นมาพร้อมกันแล้วก็จะเกิดกลียุคและโคอิซึมิก็ถูกหมายหัวในฐานะเครื่องเซ่นสังเวยแด่เทพ ไม่ว่าเหตุผลไหนพวกเขาก็จะปล่อยให้อีกฝ่ายทำเรื่องนี้สำเร็จไม่ได้
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแนวลึกลับเหนือธรรมชาติ ตัวละครแต่ละตัวจะมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งลี้ลับและอมนุษย์ในความเชื่อย่างเช่น นาคา(โอ) จิ้งจอกเก้าหาง เป็นต้น เนื้อเรื่องก็จะแบ่งออกเป็นตอนๆโดยมีธีมหลักเป็นองค์กรปริศนาที่ต้องการจะสร้างเทพขึ้นมา ถามว่าสนุกมั้ย เราไม่ใช่คอนิยายแนวนี้ก็คงตอบได้ว่าอ่านได้เรื่อยๆ จุดที่รู้สึกขัดใจคือคนแต่งเป็นคนไต้หวันแต่ฉากในเรื่องเป็นญี่ปุ่นมันอ่านแล้วให้ความรู้สึกไม่สมจริง อาจจะเป็นแค่เราก็ได้ อสูรกายในเรื่องก็ผสมๆกันทั้งตำนานกับส่วนที่(น่าจะ)แต่งเอง คงเพราะพิธีกรรมเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับเหล่านี้และไม่มีตำนานเล่าเสริมด้วยมั้งเราเลยรู้สึกว่ามันไม่สมจริง ปริศนาหลักในเรื่องเราก็คิดว่ามันไม่น่าติดตามเท่าไหร่เพราะตัวร้ายโผล่มาคุยกันแป๊บๆไม่ได้แสดงความทะเยอทะยานหรือมีเหตุผลมารองรับว่าเพราะอะไรถึงทำเราเลยไม่ค่อยอินเท่าไหร่ สรุปคือกลางๆไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ดี(แต่คนที่ชอบอ่านเรื่องแนวนี้อาจจะชอบก็ได้ค่ะ)
Blue Vestige ปริศนาจักรกล เล่ม 01 (สุ่ยเฉวียน)
4
สองเพื่อนซี้โบห์ลินและเลโฮได้เข้าร่วมการขุดค้นอาณาจักรเอเซอร์บลูครั้งสำคัญ
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ในยุคสมัยที่มนุษย์สามารถเดินทางข้ามจักรวาลได้อย่างอิสระ สองเพื่อนซี้โบห์ลิน ชายหนุ่มผู้คิดถึงความคุ้มค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์และเลโฮ ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งหุ่นยนต์เป็นชีวิตจิตใจได้เข้าร่วมการขุดค้นอาณาจักรเอเซอร์บลูครั้งสำคัญ อาณาจักรหุ่นยนต์ที่ล่มสลายภายในชั่วข้ามคืน พวกเขาได้บังเอิญพบกับหุ่นยนต์หน้าหวานตัวหนึ่งที่หนีจากใครบางคนมาหลบหลังรถของโบห์ลินแถมยังกินพลังงานเป็นน้ำหอมราคาแสนแพงอีกต่างหาก แต่ทว่าหุ่นตัวนี้กลับมีความสัมพันธ์อันล้ำลึกกับอารยธรรมเอเซอร์บลูและเป็นกุญแจเดียวที่จะไขความลับว่าเพราะเหตุใดอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่จึงล่มสลายภายในชั่วข้ามคืน
ปกติงานของคนแต่งเรื่องนี้จะออกแนวแฟนตาซีอาณาจักรโบราณ(อย่าง ปริศนาพิภพมายา กับพันธสัญญาเทวทูต) แต่มีเรื่องนี้ที่โดดออกมาเป็นแนวไซไฟแฟนตาซีโดยมีฉากหลังเป็นโลกอนาคตที่มนุษย์สามารถเดินทางข้ามจักรวาลได้อย่างอิสระ ตัวเอกของเรื่องกับเพื่อนเข้าไปร่วมการขุดคุ้นอารยธรรมที่สาบสูญ อารมณ์ประมาณว่าเป็นอารยธรรมที่ไฮเทคโนโลยีเลยมีแต่คนอยากเอาทรัพยากรไปใช้ทำนองนี้ค่ะ โดยมี ซิววี่ หุ่นยนต์หน้าหวานเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องนี้ จุดเด่นของนิยายเล่มนี้คงจะเป็นมีสามเล่มจบ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะเดินเรื่องไวมากและเผยความลับออกมาค่อนข้างไว(เพราะต้องจบเล่มสาม) นักเขียนคนนี้ถนัดปมประเภทดราม่าและวางพล็อตให้ซับซ้อน(แต่ไม่มาก)ทำให้เราอยากรู้เรื่อยๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอเซอร์บลูกันแน่ ตัวจริงของซิววี่เป็นใครกันแน่ และเอลนอนทำไมถึงมาอยู่กับซิววี่ได้ สำหรับเราชอบนะคือสามเล่มจบแล้วเดินเรื่องไว ในขณะที่นิยายเรื่องก่อนๆกว่าจะเข้าประเด็นลากยาวไปหลายเล่มเลย ใครที่มองหาแฟนตาซีลึกลับมีฮาหน่อยๆแนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ
Blue Vestige ปริศนาจักรกล เล่ม 02 (สุ่ยเฉวียน)
4
เอลนอน นั้นเป็นหนึ่งในสามระบบควบคุมหลักของเอเซอร์บลู
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เอลนอน นั้นเป็นหนึ่งในสามระบบควบคุมหลักของเอเซอร์บลูก่อนจะถูกมนุษย์จับตัวไปเพื่อจะดึงเทคโนโลยีมาใช้เลยทำให้เขาเกลียดมนุษย์มาก หลังจากชุบชีวิตเขาได้สำเร็จก็ถึงคราวที่พวกเขาจะเข้าไปสำรวจในนครซิงครอนและซิววี่ได้พบว่าก่อนนครแห่งนี้จะล่มสลายได้มีระบบควบคุมตัวหนึ่งทำงานผิดพลาด การตามหาความจริงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ปริศนาประมาณครึ่งหนึ่งถูกเฉลยในเล่มนี้ซึ่งก็คือการเปิดเผยว่าระบบควบคุมหลักของเอเซอร์บลูยังอยู่ครบทั้งสามตัวและมีหนึ่งในสามตัวที่เป็นปัญหาจนเป็นสาเหตุทำให้นครแห่งนี้ล่มสลาย จะว่าไปเราก็อดสงสารแชนนอนไม่ได้ที่ถูกมนุษย์จับไปทรมานเพื่อจะเอาเทคโนโลยีมาใช้ แล้วทุกชาติก็มุ่งหน้ามาที่นี่หมดเพื่อจะตักตวงเอาผลประโยชน์ทั้งที่หุ่นยนต์ที่อยู่ที่นี่มีจิตใจ การได้เห็นคนอื่นมาบุกรุกบ้านตัวเองเพื่อตักตวงเอาสมบัตินี่มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดจริงๆ ส่วนซิววี่นั้นท้ายเล่มก็เฉลยออกมาแล้วว่าตัวตนที่แท้จริงคือระบบควบคุมหลักของเมือง แต่ยังเป็นปริศนาต่อว่าทำไมถึงมาอยู่ในสภาพนี้ได้ เรื่องนี้มีปมปริศนาอยู่เรื่องเดียว ตัวละครนอกจากพวกหุ่นยนต์ก็มาจากดาวอื่นไม่มีปมอะไรให้ต้องเคลียร์ ตัวละครไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไหร่แต่หลายๆคนเหมือนจะมีความลับที่บอกใครไม่ได้คาดว่าเล่มหน้าก็คงเฉลยหมด เรื่องนี้เนื้อเรื่องค่อนข้างจริงจังและมีความเป็นไซไฟมากกว่าแฟนตาซี แนวการเขียนต่างจากสไตล์ที่ผ่านมาของคนเขียน(แฟนของนักเขียนท่านี้อาจจะไม่คุ่นเท่าไหร่) ถ้าถามว่าสนุกไหมเราว่าสนุกนะแต่ไม่ได้ถึงกับสนุกมากจนอยากอ่านมากขนาดนั้น คงเพราะปมปริศนาหลายๆอย่างเราเดาได้ด้วยมั้งเลยไม่ค่อยท้าทาย แต่อ่านเพื่อคลายเครียดได้สบายๆค่ะ ใครที่ชอบนิยายแนวเรื่องประมาณนี้เราแนะนำเลยค่ะ แต่ละเล่มไม่หนามากอ่านแป้บเดียวก็จบแล้ว
The Sunken Moon ปริศนาพิภพมายา พิเศษ 1
5
เล่มพิเศษนี้จะเป็นเรื่องราวความวุ่นวายในชีวิตฟั่นถ่งหลังจากที่เขากลับมาพิภพมายาอีกครั้ง
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เล่มพิเศษนี้จะเป็นเรื่องราวความวุ่นวายในชีวิตฟั่นถ่งหลังจากที่เขากลับมาพิภพมายาอีกครั้ง เย่ทุ่ยไม่ชอบทำงานชอบหนีไปเยี่ยมฟั่นถ่งบ่อยๆอีกทั้งยังพยายามลากเขาให้เข้าไปทำความรู้จักกับนาร์ซีอีกต่างหาก แถมเย่ทุ่ยยังร่วมมือกับลั่วซื่อหาทางแก้คำสาปให้ฟั่นถ่งแต่ผลก็คือกลับทำให้ฮุยซื่อที่ซ่อนตัวอยู่ในจิตใจหลุดออกมาข้างนอก แถมวะฮ่าฮ่าที่เกลียดเจ้าพวกหัวทองเป็นทุนเดิมไม่ยอมให้ฮุยซื่อกลับมาแบ่งที่เลยสั่งให้เฉินเย่ทำให้ฮุยซื่อกลับมาเป็นคนอีกครั้งแถมเขายังอาสาไปเป็นทูตที่แดนสิ้นคืนอีก พอฮุยซื่อกับอินซื่ออยู่ด้วยกันแน่นอนว่าเรื่องวุ่นวายต้องตามมาเป็นขบวนแน่ๆ
เล่มพิเศษเนี่ยจะเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครภายในเรื่อง ไม่ได้มีสตอรี่ใหม่หรือมีอะไรใหม่ เรียกว่าเป็นเล่มที่บอกเล่าเดลี่ไลฟ์ของเหล่าตัวละครอะไรแบบนี้มากกว่า ครึ่งแรกจะเป็นเรื่องของฮุยซื่อที่กลับมาเป็นคนอีกครั้งกับพวกน้องชายและเพื่อนสนิทที่เป็นคนฆ่าเขาอย่างอินซื่อ แต่ไม่มีดราม่าอะไรนะคะ ซ้ำเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันเป็นอะไรที่ฮามากอีกต่างหาก ส่วนอีกครึ่งเป็นเรื่องของสัตว์อสูรที่ฮุยซื่อยัดเยียดมันให้นาร์ซีเอาไปเลี้ยง ไปๆมาๆกลายเป็นลูกรักของนาร์ซีซะงั้นแถมยังส่งจดหมายผิดจนทำให้นาร์ซีกับฟั่นถ่งสนิทกันอีกต่างหาก เย่ทุ่ยที่ไม่ชอบทำงานก็หนีออกไปเที่ยวบ่อยๆทำให้นาร์ซีต้องนั่งทำงานแทนตอนแรกไอยาสก็ไม่ค่อยพอใจแต่หลังๆก็เหมือนจะสนิทกัน สำหรับแฟนของเรื่องนี้เล่มพิเศษนี่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเลยค่ะแต่สำหรับนักอ่านทั่วไปคงไม่จำเป็นต้องอ่านก็ได้เพราะไม่ได้มีเนื้อเรื่องใหม่เกิดขึ้นเป็นการเล่าเรื่องเก็บตกและบอกเล่าชีวิตประจำวันของตัวละครในเรื่อง
The Sunken Moon ปริศนาพิภพมายา 7
4
สถานการณ์ตกอยู่ในความโกลาหนสุดขีดเมื่อเย่ทุ่ยฝืนรวมร่างกับกระบี่สี่สาย
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สถานการณ์ตกอยู่ในความโกลาหนสุดขีดเมื่อเย่ทุ่ยฝืนรวมร่างกับกระบี่สี่สายเทียนหลัวเหยียนเพื่อต้องการปลิดชีพนาร์ซี ส่วนปี้โหรวก็เปิดเผยว่าตัวเองคืออัลฟิโล ชุดเกราะประจำตัวของเย่ทุ่ยนั่นเอง แต่เพราะเย่ทุ่ยใช้พลังรักษาลั่วซื่อไปแล้วทำให้อ่อนแรงจนถูกหลิงซื่อสะกดและพาตัวกลับไปคุมขังที่วัง ยังไงเย่ทุ่ยก็เป็นเพื่อนแถมยังเคยช่วยฟั่นถ่งมาหลายครั้งพวกเขาเลยตัดสินใจว่าจะบุกเข้าไปช่วยโดยมีอินซื่อคอยให้ความช่วยเหลือลับๆตอนนั้นเองที่ความทรงจำในช่วงที่ฟั่นถงหลุดมาที่โลกนี้ได้กลับมาอีกครั้ง เขาเคยพบกับฮุยซื่อมาก่อนและถูกขอร้องให้ทำความปราถนาของฮุยซื่อให้เป็นจริงแลกกับความทรงจำและพลังของฮุยซื่อ
เล่มนี้ดราม่าตั้งแต่ต้นจนจบเล่มเลยค่ะ เรื่องของเย่ทุ่ยกับนาร์ซีคงไปเคลียร์ที่เล่มต่อไปเพราะยังไงก็อยู่เมืองนี้ไม่ได้แล้วเหลือแค่ไปอยู่ที่แดนเดือนลับได้อย่างเดียวเท่านั้น อีกคนที่มีปมและน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องของคือราชินีที่มีอดีตบางอย่างฝังใจทำให้ไม่ไว้ใจใครเลยและดูเหมือนจะคาดหวังกับอินซื่อเป็นพิเศษ แอบสงสารลั่วซื่อเหมือนกันนะคือตัวเองเป็นเจ้าชายต้องรับผิดชอบเมืองต่อแต่อีกฝั่งก็เพื่อนสนิท แถมตอนที่ตัวเองตายแม่ไม่ยอมช่วยแต่เพื่อนเป็นคนช่วยแล้วเพื่อนที่ว่าก็โดนคนของแม่จับมา(ดราม่าไปมั้ย) ฟั่นถ่งที่ได้ความทรงจำคืนมาก็จำได้แล้วว่าตัวเองเคยถูกฮุยซื่อที่เจอกันในอุโมงค์ขอร้อง ฮุยซื่อก็เป็นอีกตัวละครที่น่าสงสารคือชีวิตอยู่ในกำมือคนอื่นจะมีความสุขก็มีเต็มที่ไม่ได้และดูจะรักน้องชายทั้งสองคนมากๆด้วย เพราะตายแล้วก็ยังห่วงน้องชาย ส่วนหลิงซื่อเล่มนี้นี่ตัวร้ายชัดๆแต่จะว่าน่าสงสารก็น่าสงสารตัวเองภักดีต่อราชินีแต่ราชินีดันสนใจแต่อินซื่อส่วนอินซื่อก็สนใจแต่เพื่อน สรุปว่าเรื่องนี้นี่มีแต่คนอาภัพความรักสินะ
The Sunken Moon ปริศนาพิภพมายา 6
4
พิธีเทโลหิตราชันย์เพื่อชุบสระคืนชีพขึ้นมาใหม่ทำท่าจะไปได้ดี
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

พิธีเทโลหิตราชันย์เพื่อชุบสระคืนชีพขึ้นมาใหม่ทำท่าจะไปได้ดีในตอนแรกแต่จักรพรรดิน้อยผู้หน้ากลัวแห่งแดนเดือนลับกลับล้มโต๊ะเจรจาเสียอย่างงั้นแถมเขายังทำให้ลั่วซื่อถึงกับช็อคเพราะเขามีใบหน้าเหมือนกับฮุยซื่อไม่มีผิด สงครามระหว่างสองประเทศได้เริ่มขึ้นอีกครั้งเนื่องจากข้อตกลงที่ไม่ลงตัวของทั้งสองประเทศ เบาะแสเรื่องฮุยซื่อยังเลือนราง ฟั่นถ่งที่รู้ว่าตัวเองอ่อนด้อยก็พยายามหาวิธีพัฒนาตัวเอง(เพราะอยากมีชีวิตรอด) ในสงครามลั่วซื่อที่ถูกจักรพรรดิน้อยจับไปทรมานถูกเย่ทุ่ยใช้โลหิตราชันย์ช่วยชีวิต ในที่สุดฐานะที่แท้จริงของเย่ทุ่ยก็เปิดเผยแล้ว
เล่มนี้เฉลยหลายเรื่องเลยอย่างเรื่องตัวตนที่แท้จริงของเย่ทุ่ย(ที่น่าจะเดากันได้อยู่แล้ว)ซึ่งก็เคลียร์แล้วว่าทำไมจักรพรรดิน้อยถึงไม่ยอมทำพิธีเทโลหิตราชันย์ เลือดของเย่ทุ่ย(ที่ตายไปแล้ว)ยังมีสถานะเป็นโลหิตราชันย์ของแดนเดือนลับอยู่นั่นเอง ความสัมพันธ์ระหว่างเย่ทุ่ยกับจักรพรรดิน้อยก็ยังคลุมเครือ ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของสองคนนี้เป็นอะไรกันแน่แต่ที่ชัดเจนคือแองเกลอร์เป็นคนฆ่าเย่ทุ่ย(เจ้าของรอยแผลน่าสะพรึงบนตัวเย่ทุ่ยนั่นเอง) วะฮะฮ่าที่เก่งผิดกับรูปร่างก็เป็นอาวุธชิ้นเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเย่ทุ่ยก็เดาได้เลยว่าวะฮะฮ่าเป็นอาวุธระดับเดียวกับอาวุธประจำตัวเย่ทุ่ยแน่ๆ ท้ายเล่มมีดราม่าแน่ๆเพราะเย่ทุ่ยให้เลือดตัวเองฟื้นคืนชีพให้ลั่วซื่อ หลังการใช้โลหิตราชันย์ร่างกายจะอ่อนเพลียแล้วฝั่งแดนสิ้นคืนก็มีแต่คนแบบยึดมั่นกฏแบบหลิงซื่อ เหวยซื่อ แถมยังต้องไปสู้กับแองเกลอร์ตัวปลอม(นาร์ซี)ต่ออีก เล่มต่อไปไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเย่ทุ่ยต้องเผชิญชะตากรรมโหดร้ายมากแน่ๆ
The Sunken Moon ปริศนาพิภพมายา 5
4
ฟั่นถ่งไม่นึกเลยว่าแค่ไม่มีเย่ทุ่ยอยู่ด้วยก็จะถูกคนมารุมรังแก
โดย: vanillasky วันที่เขียนรีวิว: 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ฟั่นถ่งทะเลาะกับเย่ทุ่ย เขาไม่นึกเลยว่าแค่ไม่มีเย่ทุ่ยอยู่ด้วยก็จะถูกคนมารุมรังแกแถมเหตุการณ์ในครั้งนี้ยังเป็นสาเหตุทำให้เย่ทุ่ยฆ่าพลเมืองชีวิตเดิมอีกต่างหากแต่เพราะอินซื่อรับผิดแทนเย่ทุ่ยเลยไม่ถูกประหารแต่ทว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็มีหลายคนที่ระแคะระคาย ชีวิตของพวกเขากลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้งและความสัพันธ์กับเย่ทุ่ยก็ดูจะแน่นแฟ้นยิ่งกว่าเดิมด้วย จู่ๆลั่วซื่อก็ชวนพวกเขาเป็นผู้ติดตามไปประกอบพิธีเทโลหิตราชันย์ลั่วซื่อต้องการตรวจสอบเรื่องฮุยซื่อเลยชวนฟั่นถ่งและเย่ทุ่ยไปด้วย
ในที่สุดความลับเรื่องคำพูดกลับตาลปัตรของฟั่นถ่งก็เปิดเผยแต่ดูเหมือนปี้โหรวจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่จะว่าไปมันก็อธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ยากจริงๆนั่นแหละ จากเหตุการณ์ตอนต้นเรื่องที่เย่ทุ่ยทำร้ายอินซื่อได้ก็บอกใบ้ถึงอะไรหลายๆอย่างแล้วอย่างเช่นก่อนตายเย่ทุ่ยมีพลังในระดับที่สูงน่ากลัวมากเรียกได้ว่าฆ่าคนได้ง่ายๆเลย ในเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครนั้นเย่ทุ่ยกับจูซาก็ดูเหมือนจะสนิทกันขึ้นมาอีกนิด จูซากล้างอนแล้วให้เย่ทุ่ยง้อแต่ดูท่าทางเย่ทุ่ยจะอยากอยู่กับฟั่นถ่งมากกว่า และพอจบจากเหตุการณ์ร้ายๆตอนต้นเล่มเย่ทุ่ยกับฟั่นถ่งก็ดูจะสนิทกันมากขึ้นไปอีก(จากปกติที่สนิทกันมากอยู่แล้ว) เราจะเห็นได้ว่าเย่ทุ่ยเป็นเด็กที่จิตใจใสมากๆคือใครดีมาก็ดีตอบใครจริงใจกับตัวเอง(ฟั่นถ่ง)ก็จริงใจตอบ ไม่มีการหลอกใช้ประโยชน์หรือทำตัวดาร์คใส่ ปริศนาเรื่องฮุยซื่อก็ยังไม่คลี่คลายแต่เดาว่าเกี่ยวข้องกับแท่นบูชาจันทร์คล้อยแน่ๆ เช่นเดียวกับเย่ทุ่ยที่เก่ยวข้องกับจักรพรรดิน้อยแองเกลอแน่ๆ(ปี้โหรวก็น่าจะเกี่ยวด้วยเหมือนกัน )
www.batorastore.com © 2024